วันอาทิตย์ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

ก็ฉันเขลา


บทประพันธ์นี้ความหมายดี พบเจอมาในหนังสือ ผมเลยเอามาดัดแปลง ตกแต่ง

ชื่อบทประพันธ์ ก็ฉันเขลา

ฉันโง่ ฉันเขลา ฉันทึ่ง ฉันจึงมาหาซึ่งความหมาย
ฉันหวังจะเก็บอะไรไปมากมาย แต่สุดท้ายให้กระดาษฉันแผ่นเดียว


กัมปนาท

แม่สอนตอนปิดเทอม


แม่สอน






ปิดภาคเรียนข้าว่าง งานทำ
ท่านส่งมาเรียนลำ(ลั้ม) เพิ่มรู้
เรียนไปบ่สิชำ(ชั้ม) ภายหน้า(น่า)
แม่ท่านบอกจงสู้ เพื่อฟ้าสดใส


(เขียนสระ อำ แล้วขึ้นไม่โทไม่ได้ต้องขออภัย แต่ข้าเขียนคำอ่านไว้ให้แล้ว)


อันนี้ นั่งๆ อยู่ นึกถึงตอนที่แม่ บอกว่า ปิดเทอมแล้ว ไม่มีการงานทำให้ไปหาเรียนพิเศษไป-
(ตอนช่วงปิดเทอม2 ตอน ม.4 ครับ)

เป้าหมายในวัยเรียนของชีวิต


*เป้าหมายในภายหน้า จบออกมาเป็นคุณหมอ

นายร้อยแสนเท่ห์หล่อ เป็นเจ้าพ่ออำนาจล้น


*เป็นข้าราชการ นั่งทำงานเป็นนายคน

อยู่เหนือประชาชน มากมายผลประโยชน์มี


*นั่งเสพความสุขสันต์ ทุกคืนวันฉันสุขศรี

นั่งกินนอนกินดี สุขชีวีใจฝ่ปอง



ผมรู้ ทุกคนก็ต้องเคยหวัง แอบคาดหวังเช่นนี้ เหมือนกับผม 555+ (ความคิดเด็กๆๆ ครับ)
และหากผู้อ่านมีความหวังมีเป้าหมายในชีวิต ขอให้เหล่าท่าน จง สู้ ต่อไป เพื่ออนาคตอันงดงาม

อหังการของ กัมปนาท


เสียงกู่ดังลั่นฟ้า สะเทือน

ดินแผ่นกระจายเลื่อน เพราะข้า

กัมปนาทฟ้าเกลื่อน นามกู่

ผู้อื่นกะบ่กล้า แหย่เย้ยหยันนา



โคลงสี่สุภาพ เรื่อง อหังการกัมปนาท เป็นความคิด ชั่วแวบ ที่เกิดขึ้น ในสมองพรรณาถึงตัวเอง
บทโครงนี้ ไม่สลักสลวยนัก เพราะเป็นการแต่ออกมา เพียวๆ ตามอารมณ์จตนาการของกระผมเอง

โทดที่กรรมตน




อย่าโทษไท่ท้าว เทวดา
อย่าโทษสถานภูผา ผ่านกว้าง
อย่าโทษหมู่วงศา ญาติมิตร
โทษแต่กรรมเราสร้าง ส่อให้เห็นเอง


คำประพันธืนี้ ค่อนข้างแต่งออกมาได้สวย และมีความหมายดี

ผมมักใช้คำประพันธ์นี้ประโลมใจ ยามทุกข์ใจและสิ้นหวัง


วันพฤหัสบดีที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

นั่งเศร้าหวัดเข้าทรวง

ข้านั่งลงเมื่อกี้ ตากลม
เกือบคำหนาวจน สั่นไข้
ข้าลองนั่งอดทน นั่งต่อ
ครั้นปวดป่วนตัวขึ้น มูกย้อยเปลื้อนคาง



โคลง ชื่อ นั่งเศร้าหวัดเข้าทรวง แต่งโดยกัมปนาท แสงตันชัยตันติแบบแผนเพลิงกาฬตำราเดี่ยว